ข่าวเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา
พ่อแม่ดช.วัย
14
รุดแจ้งจับครูใช้หวายเฆี่ยนหลัง-เตะกกหู ไม่พอใจเจาะยางรถผอ.รร.
25 มิ.ย. นางสุจิตย์ และนายสราวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล)
สองสามีภรรยา นำตัวด.ช.ธี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกชาย
นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลบางมะพร้าว
อ.หลังสวน จ.ชุมพร เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วรรณโณ
จิตภิบาล ร้อยเวรสภ.หลังสวน ว่าลูกชายถูกครูเฆี่ยนตีหลังจนเกิดบาดแผลหลายแห่ง
แถมยังโดนครูคนเดียวกันเตะเข้าที่กกหูด้านซ้าย
เด็กชายเปิดเผยว่า เมื่อเกือบ 10 วันที่ผ่านมาตนกับเพื่อนรวมกัน 10
คนได้นำไม้ที่ติดตะปูไปวางไว้ที่ล้อรถผู้อำนวยการโรงเรียนจนทำให้ยางรถยนต์รั่ว
ต่อมาวันรุ่งขึ้นผอ.เรียกพบ ตนก็ได้ยอมรับผิดและจะนำธูปเทียนมาขอขมา
แต่ผอ.โรงเรียนบอกไม่ยอมรับการขอขมา ให้รออาจารย์ฝ่ายปกครองเป็นผู้พิจารณาโทษ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนๆจำนวน 10
คน ถูกเรียกตัวไปพบอาจารย์ฝ่ายปกครองผู้ชาย
เด็กชายกล่าวว่า ตนและเพื่อนที่ร่วมกันวางแผน นั่งขัดสมาธิที่พื้น
สักพักอาจารย์ฝ่ายปกครองก็ใช้เท้าเตะที่กกหู ตนได้เอามือขึ้นป้องหูไว้
แต่ก็ล้มลงกับพื้นรู้สึกมึนหัวและ เจ็บบริเวณกกหู อาจารย์ปกครองบอกให้ยืนขึ้น
เอาไม้หวายขนาด 1 เมตร
หวดด้วยความรุนแรงเข้าที่กลางหลังและแขนจำนวน 5 ครั้ง
จนตนเองต้องบอกกับอาจารย์ว่าไม่ไหวแล้ว พร้อมทั้งยกมือไหว้ อาจารย์ปกครองจึงหยุดตี
และปล่อยให้ตนกลับเข้าห้องเรียนตามปกติ
เด็กชายกล่าวว่า จนกระทั่งกลับบ้าน ทนความเจ็บปวดทั้งหมดไม่กล้าบอกพ่อแม่
เนื่องจากกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ จนกระทั่งมาถูกแม่สังเกตเห็นและจับอาการได้
พาไปหามอให้รักษาบาดแผลในวันนี้ จึงพากันมาแจ้งความ
แม่เด็กกล่าวว่า จะขอดำเนินคดีทางอาญา
และร้องเรียนทางวินัยจนถึงที่สุด จะไม่ยอมรับชดใช้ค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว
อยากถามอาจารย์ว่าทำไมถึงทำกับนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ได้โหดร้ายรุนแรงมากถึงขนาดนี้ ลูกของตนเองเป็นเด็กที่มีผลงานทางด้านการศึกษา และความดีงามมาก
จนได้รับประกาศนียบัตรมากมายทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ
การกระทำที่เป็นความผิด เด็กก็เข้าไปยอมรับกับผอ.แล้ว ยังไม่ยอมรับการขอขมา
ถ้าบอกพ่อแม่ถึงความเสียหายของยางรถยนต์ พ่อแม่ก็พร้อมรับผิดชอบ
ครอบครัวเราสอนให้ลูกเป็นคนดีและมีความรับผิดชอบตลอด
ในบางครั้งเด็กอาจเล่นพิเรนทร์ไปตามวัยแต่ ก็ไม่ควรลงโทษรุนแรงแบบนี้
พ่อเด็กชายกล่าวว่า
“เงินไม่สามารถซื้อศักดิ์ศรีคนอย่างพวกเราได้
ดังนั้นจะขอดำเนินคดีและทางวินัยของครูคนดังกล่าวถึงที่สุดทุกทาง
ถึงจะต้องไปยืนประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดก็จะทำเพื่อให้ มีการพิจารณาความเป็นครู
และผู้อำนวยการรร.แห่งนี้
ร.ต.อ.วรรณโณได้รับคำแจ้งความ
พร้อมทั้งส่งตัวเด็กชายไปรับใบรับรองแพทย์ ทางด้านอาการและบาดแผลที่เกิดขึ้น
พร้อมทั้งจะเรียกตัวครูปกครอง และผู้อำนวยการรร.มาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
วิเคราะห์ข่าว
จากการอ่านข่าวข้างต้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกหดหู่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก
โดยเฉพาะการกระทำของครูฝ่ายปกครองที่มีการลงโทษนักเรียนด้วยความรุนแรง คือ
การใช้เท้าเตะไปที่กกหูและการให้ไม้หวายเฆี่ยนตีนักเรียนทำให้นักเรียนมีอาการฟกซ้ำและมีบาดแผลตามลำตัว
ถ้าหากพิจารณาในตัวกฎหมายของการลงโทษเด็กนักเรียนจะเห็นได้ว่า
ครูไม่มีสิทธิ์ที่จะลงโทษทุบดีเด็กนักเรียนแต่อย่างใด
ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเป็นการลงโทษเพียงเล็กน้อยหรือรุนแรงก็ตาม
ในการกระทำครั้งนี้ผู้ปกครองสามารถดำเนินการฟ้องร้องและดำเนินคดีต่อครูฝ่ายปกครองได้ในทันทีเพราะเป็นการลงโทษที่รุนแรงและมีอันตรายอันจะถึงแก่เสียชีวิตได้
ในขณะเดียวกันการกระทำของนักเรียนพบว่า
เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างมาก เพราะเป็นการทำลายข่าวของให้ได้รับความเสียหาย
จากทั้งหมดที่กล่าวมาพบว่าในการแก้ไขปัญหานี้จะต้องไม่แก้ไขเพียงที่ครูเพียงคนเดียว
แต่ต้องแก้ไขปัญหาที่ตัวผู้เรียนด้วย โดยผุ้เรียนจะต้องมีการปลูกฝังคุณธรรม
จริยธรรมให้มากกว่านี้ และในส่วนของครูเอง ครูจะต้องมีความอดทน อดกลั้น
หาวิธีลงโทษวิธีการใหม่ที่ทำให้ผู้เรียนได้สำนึกผิดและได้เรียนรู้ไปในขณะเดียวกัน
เพราะการลงโทษบางกิจกรรมจะส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักตัวตนของตนเอง
มีความสนิทกับเพื่อนฝูงมากขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น